ทุกครั้งที่มีเมฆครึ้มสีเทาเคลื่อนตัวมา บรรยากาศต่างๆก็ทำให้เรารู้สึกได้ว่าฝนกำลังจะตก ทั้งความเหงาและความเศร้าต่างๆก็มักจะมาในเวลาเดียวกัน ยิ่งถ้าอยู่คนเดียวในเวลานั้นเมื่อไร เมฆครึ้มสีเทามักเป็นตัวแทนของความรู้สึกหดหู่ที่มีภายในจิตใจได้เกือบทุกครั้ง
แต่เราอาจลืมไปว่า เบื้องหลังของเมฆสีเทานั้น มีดวงอาทิตย์ที่ยังคงส่องแสงอยู่เหมือนเดิม ดวงอาทิตย์ยังคงทำหน้าที่ของมัน ยังคงส่องแสงและให้ความอบอุ่นอยู่เสมอ เพียงแต่บางครั้ง ดวงอาทิตย์ก็เลี่ยงไม่ได้ หากวันหนึ่งเมฆสีเทาจะเคลื่อนมาปกปิดไม่ให้ส่องแสงลงมายังพื้นดิน แต่เพียงไม่นาน เมื่อฝนหยุดตก ดวงอาทิตย์ก็จะกลับมาส่องแสงให้เราได้เห็นกันอีกครั้ง
ก็คงเหมือนกับคนเรา บางครั้งเราเองก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะพบเจอกับปัญหาที่เข้ามาในทางเดินของชีวิต ปัญหาก็เปรียบเสมือนกับเมฆสีเทาที่เคลื่อนตัวมา ส่วนใจของเราก็เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ อย่าให้ความอ่อนแอกัดกินใจจนทำให้แสงสว่างในใจเราวูบดับลง เพียงใจเราเข้มแข็งและอดทนสู้กับปัญหา ไม่นานทุกอย่างก็จะกลับมาสดใสได้เหมือนเดิม
แต่เราอาจลืมไปว่า เบื้องหลังของเมฆสีเทานั้น มีดวงอาทิตย์ที่ยังคงส่องแสงอยู่เหมือนเดิม ดวงอาทิตย์ยังคงทำหน้าที่ของมัน ยังคงส่องแสงและให้ความอบอุ่นอยู่เสมอ เพียงแต่บางครั้ง ดวงอาทิตย์ก็เลี่ยงไม่ได้ หากวันหนึ่งเมฆสีเทาจะเคลื่อนมาปกปิดไม่ให้ส่องแสงลงมายังพื้นดิน แต่เพียงไม่นาน เมื่อฝนหยุดตก ดวงอาทิตย์ก็จะกลับมาส่องแสงให้เราได้เห็นกันอีกครั้ง
ก็คงเหมือนกับคนเรา บางครั้งเราเองก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะพบเจอกับปัญหาที่เข้ามาในทางเดินของชีวิต ปัญหาก็เปรียบเสมือนกับเมฆสีเทาที่เคลื่อนตัวมา ส่วนใจของเราก็เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ อย่าให้ความอ่อนแอกัดกินใจจนทำให้แสงสว่างในใจเราวูบดับลง เพียงใจเราเข้มแข็งและอดทนสู้กับปัญหา ไม่นานทุกอย่างก็จะกลับมาสดใสได้เหมือนเดิม
No comments:
Post a Comment